วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ไอน้ำที่กระจก

ไอน้ำที่กระจก


สมัยเรียนต่อในกรุงเทพฯ ใหม่ๆ ก่อนที่พ่อจะซื้ออพาร์ตเมนต์ให้ หลินก็ได้ป้าน้ำใจนี่แหละที่ให้ที่พักอาศัยอยู่หลายเดือน ป้าน้ำใจมีน้ำใจสมชื่อ นอกจากที่พักที่สะอาด มีอาหารการกินครบสามมื้อแถมขนมอร่อยๆ มีให้รับประทานทุกวัน ป้ายังพาไปเที่ยวที่นั่นที่นี่อยู่ตลอด เมื่อป้าน้ำใจกลับไปอยู่บ้านเดิมที่ต่างจังหวัดแล้วเกิดป่วย หลินจึงรีบรุดไปเยี่ยมป้าทันทีที่ได้ข่าว

ป้าน้ำใจป่วยด้วยโรค "คนแก่" อาทิ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ฯลฯ ป้าเพิ่งช็อกเพราะน้ำตาลในเลือดสูง โชคยังดีที่ลูกสาวป้ากลับจากทำงาน พอมาถึงโรงพยาบาลป้ามีไข้สูง เจ็บคอร่วมด้วย หมอจึงเจาะเลือดไปตรวจและให้ป้านอนพักรักษาตัว วันที่หลินมาถึงป้าก็อาการดีขึ้นมากแล้ว

ป้าน้ำใจรักษาในโรงพยาบาลเอกชนที่เพิ่งเปิดใหม่ห่างออกไปจากตัวเมืองพอสมควร เป็น โรงพยาบาลที่เงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อน ตามทางเดินภายในโรงพยาบาล ทั้งห้องอาหารและร้านค้าผู้คนมาใช้บริการก็ไม่มาก ตกดึกยิ่งเงียบมากกว่าตอนกลางวัน ยิ่งในเวลานี้ที่แม้จะค่ำแล้วแต่ฝนยังตกหนักอยู่ภายนอกอาคารมาตั้งแต่บ่าย มองจากภายในไปด้านนอกเห็นฟ้าผ่า ฟ้าแลบ ท่ามกลางความมืดมิดภายนอก แต่ภายในกลับอุ่นสบาย หลินมองสายฝนไปด้านนอกกระจกอย่างเพลิดเพลิน ผู้ช่วยพยาบาลกำลังเช็ดตัวป้า เธอจึงขอตัวลงมาเดินเล่นและหาอาหารลงท้องสำหรับมื้อเย็น

หลินวาดนิ้วเป็นวงกลมไปบนกระจกห้องอาหาร ด้านนอก ณ มุมนี้เช่นเดียวกันที่ล็อบบี้ของโรงพยาบาล เธอมองไปด้านนอกเห็นชายคนหนึ่งเดินฝ่าสายฝนจากอาคารหนึ่งไปยังอีกอาคารหนึ่ง เวลาของเธอผ่านไปอย่างเชื่องช้า เธอมองชายคนนั้นจนเข้าสู่อาคารอย่างไม่รู้จะทำอะไร หลินลากนิ้วไปตามกระจกเล่น รอยไอน้ำปรากฏเป็นข้อความ "คิดถึง" เมื่อรู้สึกตัวเธอจึงแอบอมยิ้มแล้วรีบลบข้อความทิ้ง

หลินแอบชอบพี่เอก พี่ที่ทำงานมากว่าปีแล้วตั้งแต่เข้าทำงาน หลินพยายามแสดงตัวให้เขารู้ถึงความรู้สึกของเธอทีละน้อย ตอนเช้าก่อนขึ้นเครื่อง เธอแอบโทร.ถึงเขาบอกให้รู้ว่าเธอต้องเดินทางไกลไปดูแลญาติ เขาบอกให้รักษาตัวด้วยและเดินทางปลอดภัย เพียงแค่นี้หลินก็มีความสุขแล้ว

หลินสังเกตว่าฝ้ากระจกจับตัวดูหนามาก เธอมองไปรอบตัว มีคนมาใช้บริการห้องอาหารพอสมควร หลินจึงลุกขึ้นเดินออกไปตามทางเดินสู่อาคารที่ป้านอนพัก ตามทางเดินแคบๆ สองข้างที่ยังอยู่ภายในอาคารกรุด้วยกระจกนั้นยังมืดและดูมืดมากกว่าเสียด้วยซ้ำเพราะมองออกไปภายนอกเหมือนเป็นป่าหญ้าและที่รกร้างว่างเปล่า หลินยกฝ่ามือลากเล่นไปเรื่อยๆ ปรากฏเป็นรอยฝ่ามือลากยาวไปตลอดทางที่เธอเดิน

เวลานั้นเองที่เสียงโทรศัพท์เรียกเข้าหลินจึงหยุดเดินและล้วงกระเป๋าพลางกดรับสาย พี่เอกนั่นเองที่โทร. มา หลินอมยิ้มพูดจาคะขาอย่างมีความสุข ทันใดนั้นเองที่หลินตกใจตาโตและเงียบไป พี่เอกถามว่าเกิดอะไรขึ้น

"ปะ เปล่าค่ะพี่ ไม่มีอะไร เดี๋ยวอีกสักพักหลินโทร.ไปหานะคะ" หลินรีบเก็บโทรศัพท์แล้วมองรอยฝ้าบนกระจกพลางเดินถอยห่างจนแทบชิดอีกฝั่งอย่างพยายามควบคุมตัวเองจนชนเข้ากับนางพยาบาลคนหนึ่ง

"โทษค่ะ" หลินพูด นางพยาบาลมองหลินแล้วรีบถาม "มีอะไรหรือเปล่าคะ สีหน้าไม่สู้ดี"

หลินยังตอบเหมือนที่ตอบพี่เอก ก่อนจะนึกขึ้นได้ "พี่เห็นรอยฝ้าบนกระจกหรือเปล่าคะ"

"ค่ะ มีอะไรหรือคะ"

"มันลากยาวไปข้างหน้าจนสุดกระจกใช่ไหมคะ"

"ใช่ค่ะ" นางพยาบาลสงสัย "มีอะไรหรือเปล่าคะที่ดิฉันช่วยได้ ที่นี่เป็นโรงพยาบาลนะคะ"

หลินอยากจะตอบว่าก็เธอหยุดยืนอยู่ตรงนี้ แล้วรอยลากที่ลากต่อไปจนสุดเกิดขึ้นได้อย่างไร และที่สำคัญก็เพราะเป็นโรงพยาบาลน่ะสิ ทำให้เธอขนลุกและเสียวสันหลังวาบ แต่เธอกลับตอบไปว่า "คือ คือ เปล่าไม่มีอะไรคะ" พูดจบหลินก็รีบเดินออกจากที่นั่นและรีบกดลิฟต์ขึ้นไปยังห้องของป้าน้ำใจอย่างไม่ลังเล

บนห้องหลินรีบเล่าให้ป้าฟังอย่างตกอกตกใจ "หนูเดินเพลินๆ เห็นไอน้ำเกาะหนาหนูก็ลากมือเล่นไปเรื่อยไปตามกระจก มันเย็นดี แต่ตอนหนูหยุดเดิน รอยลากยาวมันกลับไม่หยุด มันลากต่อไปจนหมดผนังที่เป็น กระจก หนูเดินคนเดียวนะคะ รอบตัวก็ไม่มีใคร จนกระทั่งนางพยาบาลคนนั้นที่หนูเดินชนนั่นแหละค่ะ"

ป้าน้ำใจนิ่งไป "โรงพยาบาลนี่ก็เพิ่งเปิด ป้าอยู่จังหวัดนี้มาหลายปีก็ไม่เคยได้ยินเรื่องเล่าน่ากลัวๆ เกี่ยวกับโรงพยาบาลนี้นะ" ป้าเว้นจังหวะพลางหยุดคิด "ว่าแต่ตะกี้ก่อนเข้าที่หนูเคาะกระจก หนูเดินคุยมากับใครรึเปล่า" หลินตอบ "ไม่นี่คะ หนูเดินมาคนเดียว"

"แต่ป้าเห็นผู้ชายยืนข้างแก ตอนแกเคาะประตูห้องนะ ป้ามองไป เขายังยิ้มให้ป้าเลย แล้วนี่เขาไปไหน"

โทรศัพท์ก็ดังขึ้นขัดจังหวะ หลินยกดู เป็นสายจากเพื่อนสนิทที่ทำงาน ฝั่งนั้นพูดอย่างตกอกตกใจ

"นี่แก รู้ข่าวพี่เอกที่แกแอบชอบเขาอยู่หรือยัง"

"ข่าวอะไร"

"รถคว่ำน่ะ" เพื่อนรีบพูด "ตอนบ่าย ตรงรัชดาฯ ทางโค้งนั่นน่ะ คาที่เลยแก"

ทันใดนั้นเองหลินรู้สึกว่าเบาะเก้าอี้รับแขกที่เธอนั่งอยู่ยวบลงอย่างรู้สึกได้

yengo หรือ buzzcity

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น